ศิลปะของน้ำหอม

วิธีใช้โคโลญจน์

ดูน้อพิ่ มเติม
Art of Fragrance Banner

ศิลปะของน้ำหอม

วิธีใช้โคโลญจน์

น้ำหอมเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการแสดงสไตล์เฉพาะตัวและการสร้างความประทับใจที่ตราตรึง ไม่ว่าคุณจะชอบน้ำหอมกลิ่นแรงหรือน้ำหอมที่บางเบา น้ำหอมที่เหมาะกับคุณจะเสริมความโดดเด่นให้กับลุคของคุณ และทำให้คุณรู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น

Jo Malone Art of Fragrance Colognes

ศิลปะการใช้น้ำหอม

เรามาเจาะลึกเกี่ยวกับศิลปะการใช้น้ำหอม รวมถึงการเลือกกลิ่นที่ถูกต้อง การใช้กลิ่นที่เหมาะสำหรับบรรยากาศหรือตามโอกาส วิธีการใช้น้ำหอม และจุดที่ควรฉีดโคโลญจน์


หลังจากที่คุณอ่านจบ คุณจะมีความเชี่ยวชาญด้านน้ำหอมเพิ่มขึ้น และได้รับเคล็ดลับในการใช้โคโลญจน์อย่างคุ้มค่าที่สุด

การเลือกกลิ่นที่เหมาะสม

ในการเลือกกลิ่น คุณควรคำนึงถึงรสนิยม บุคลิกนิสัย และภาพพจน์ที่คุณต้องการรังสรรค์ ลองนึกดูว่าคุณต้องการกลิ่นแนว Citrus, Fruity, Woody หรือ Spicy ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นคนที่สนุกสนานมีชีวิตชีวา คุณอาจเหมาะกับกลิ่นแนวผลไม้มากกว่า แต่หากเป้าหมายของคุณคือการแสดงถึงความลึกลับและเสน่ห์ที่น่าดึงดูด ลองเลือกใช้ Oud & Bergamot Cologne Intense กลิ่นนี้จะมอบกลิ่นหอมลุ่มลึกแนว Woody ผสมผสานกับความสดชื่นของผลไม้ที่ตราตรึงชวนหลงใหล


การค้นหากลิ่นน้ำหอมที่เหมาะกับสไตล์ของคุณอาจไม่ง่าย แต่ Jo Malone London มีเครื่องมือ Scent Finder ออนไลน์ที่จะช่วยคุณค้นหาว่าน้ำหอมกลิ่นใดเหมาะที่จะเป็นกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของคุณ


ก่อนซื้อน้ำหอมออนไลน์ เราแนะนำให้คุณลองใช้น้ำหอมที่ร้านใกล้บ้านคุณก่อน ผู้เชี่ยวชาญในร้านของเรายินดีช่วยเหลือ และให้คำแนะนำในการเลือกหากลิ่นโปรดกลิ่นใหม่ของคุณเสมอ

Jo Malone Spring Scents

เลือกกลิ่นหอมตามโอกาสและฤดูกาล

 

คำนึงถึงโอกาสหรืองานที่คุณจะไปเข้าร่วม และดูว่ากลิ่นน้ำหอมที่คุณใช้นั้นเสริมกับบรรยากาศดังกล่าวหรือไม่

ช่วงเวลากลางวัน

สำหรับช่วงเวลากลางวัน เราแนะนำกลิ่นที่บางเบา สดชื่น และมีชีวิตชีวา น้ำหอมกลิ่นซีทรัส อย่าง Lime Basil & Mandarin เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะน้ำหอมกลิ่นนี้จะมอบความสดใสมีชีวิตชีวา ทำให้คุณต้อนรับเช้าวันใหม่อย่างอารมณ์ดี น้ำหอมนี้มี Top Note ผลไม้ที่โดดเด่น จับคู่กับ Heart Note ที่มีกลิ่นหอมอบอวล และผสมผสานกับกลิ่นความเป็นธรรมชาติของ Base Note

 

ช่วงเวลากลางคืน

สำหรับงานกลางคืน คุณอาจเลือกกลิ่นน้ำหอมที่โดดเด่นยิ่งขึ้น Cypress & Grapevine Cologne Intense ที่หอมอบอวลและแสนเย้ายวนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม น้ำหอมกลิ่นนี้มอบกลิ่นหอมของยางไม้ ผสมผสานกับความชุ่มฉ่ำขององุ่น ทำให้ได้กลิ่นที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติ และหวานละมุน ไม่ว่าคุณจะไปรับประทานอาหารค่ำแสนหรู หรือแต่งตัวเพื่อสร้างความประทับใจ โคโลญจน์นี้จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าใคร

 

ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน

ในช่วงเดือนอุ่น ๆ การใช้น้ำหอมที่เบาบางและชุ่มฉ่ำจะสร้างความสดชื่นเย็นใจให้กับคุณ กลิ่นหอมของผลไม้อย่าง English Pear & Freesia เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอากาศร้อน เพราะเบาบางและสดชื่น น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับฤดูร้อน ลองมอหากลิ่นหอมบางเบาของดอกไม้สดอย่าง  Orange Blossom

ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนไปใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นไม้และเครื่องเทศมากขึ้น กลิ่นเหล่านี้เหมาะสำหรับเดือนหนาว ๆ เพราะเป็นกลิ่นอุ่นชโลมใจ


Tuberose Angelica Cologne Intense ของเราเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดอกซ่อนกลิ่นมีกลิ่นหอมอบอวลที่ทำให้นึกถึงฤดูกาลนี้ อีกทั้ง Base Note กลิ่นอำพันจะมอบความอบอุ่นเป็นกันเองในช่วงฤดูกาลนี้


ในช่วงฤดูหนาว หนึ่งในกลิ่นโคโลญจน์ยอดนิยมของเราคือ Myrrh & Tonka Cologne Intense โคโลญจน์กลิ่นนี้มอบความหอมของอัลมอนด์อุ่น ๆ และกลิ่นหอมวานิลลาของถั่วตองกา ซึ่งสร้างบรรยากาศที่สง่าและชวนหลงใหล คุณจะได้รับกลิ่นหอมลุ่มลึกที่เหมาะสำหรับคืนอุ่น ๆ ในช่วงฤดูหนาว ลองฉีดน้ำหอมใส่ผ้าพันคอเพื่อให้กลิ่นหอมโอบกอดคุณไว้


การเลือกกลิ่นหอมที่สะท้อนสไตล์และอารมณ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเนื่องในโอกาสหรือฤดูกาลใด อย่ากลัวที่จะทดลองกลิ่นใหม่ ๆ และค้นหากลิ่นที่คุณชื่นชอบจริง ๆ ลองแหกกฎดู เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณได้ทดลอง สนุก และค้นหาสิ่งที่เหมาะกับตัวคุณ

Jo Malone Light Floral Colognes
Jo Malone Myrrh & Tonka Cologne

สิ่งที่ควรทำในการใช้น้ำหอม

1. สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนใช้น้ำหอม

การสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวของคุณด้วยโลชั่นหรือน้ำมันเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนพร้อมรับน้ำหอม อีกทั้งยังช่วยให้ความหอมของโคโลญจน์ติดทนนานยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

2. ใช้น้ำหอมทันทีหลังอาบน้ำ

เวลาที่อาบน้ำ รูขุมขนของคุณจะเปิดกว้าง ทำให้ผิวของคุณพร้อมรับน้ำหอมมากขึ้น นอกจากนี้ ความอุ่นชื้นที่เกิดจากการอาบน้ำจะช่วยให้น้ำหอมกระจายไปทั่วผิวอย่างทั่วถึงมากขึ้นแทนที่จะคงอยู่ในจุดเดียว

 

3. ฉีดในบริเวณชีพจร

บริเวณชีพจรเป็นจุดที่เลือดไหลเวียนใกล้พื้นผิวของผิวหนัง เช่น ข้อมือ ข้อพับ ไหปลาร้า และหลังเข่า จุดเหล่านี้เหมาะสำหรับการฉีดโคโลญจน์ เพราะความร้อนจากร่างกายของเราจะช่วยให้กลิ่นฟุ้งกระจาย

 

4. แตะ อย่าถู

ในการใช้น้ำหอม ให้ถือขวดห่างจากผิวของคุณประมาณ 6 นิ้วและฉีดลงบนบริเวณชีพจร แตะน้ำหอมแทนที่จะถู เพราะการถูจะทำลายโมเลกุลน้ำหอมได้ การแตะจะช่วยให้น้ำหอมกระจายอย่างทั่วถึงและส่งกลิ่นหอมอย่างเต็มที่ได้

 

5. ฉีดผมและเสื้อผ้า

หากคุณอยากได้กลิ่นที่อยู่นาน คุณอาจลองฉีดน้ำหอมไปที่ผมและเสื้อผ้าของคุณได้ แต่ระวังอย่าฉีดตรงรากผมของคุณโดยตรง


สิ่งที่ไม่ควรทำในการใช้น้ำหอม

1. อย่าใช้มากไป

ยิ่งน้อยยิ่งมากเป็นเรื่องจริงสำหรับน้ำหอม ดังนั้นอย่าใช้จนมากเกินไป การฉีดเพียงเล็กน้อยก็พอที่จะทำให้น้ำหอมติดทนนานและทิ้งร่องรอยความหอมในทุกที่ที่ไป


2. อย่าใช้กับผิวที่เป็นแผลหรือบอบบาง

หากคุณมีแผลหรือการถลอกบนผิวของคุณ คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมในบริเวณดังกล่าว แอลกอฮอล์ในน้ำหอมอาจทำให้ผิวที่เป็นแผลเกิดการระคายเคือง ซึ่งจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือแสบร้อนได้


3. อย่าเก็บน้ำหอมในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง

สภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้นใกล้หม้อน้ำ ขอบหน้าต่าง หรือห้องน้ำจะทำให้น้ำหอมของคุณระเหยเร็วขึ้น ดังนั้นคุณควรเก็บน้ำหอมไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิมในสภาพแวดล้อมที่แห้ง เย็น และมืดเพื่อรักษากลิ่นและอายุการใช้งานที่ยืนยาว


4. อย่าฉีดใส่เครื่องประดับ

น้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์อาจทำให้โลหะบางชนิดเปลี่ยนสีได้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงโดยการให้น้ำหอมแห้งก่อนใส่เครื่องประดับของคุณ


เลือกซื้อเรื่องราว

100ml

100ml

100ml

250ml

คำถามที่พบบ่อย